Sunday, February 20, 2011

แค้นวิปริต จิตสั่งกาม : ตอนที่ 1 เหตุอุบาทว์หน้าห้าง

"แนวสะกดจิตเรื่องใหม่:แค้นวิปริต จิตสั่งกาม"

โดย
โทรจิตคุง Palm-Plaza.com Forum

ตอนที่ 1 เหตุอุบาทว์หน้าห้าง

หากคุณได้อ่านบันทึกเรื่องราวของผมต่อไปนี้ คุณอาจจะคิดว่าผมนั้นช่างร้ายกาจจนอยากจะฆ่าให้ตายเลยก็ได้
แต่จะมีสักกี่คนที่ตั้งคำถามว่า เพราะอะไรจึงทำให้ผมเป็นแบบนี้

ขณะ นี้เวลาราวสี่โมงเย็น ผมกำลังนั่งผ่อนคลายอารมณ์ริมสระว่ายน้ำพร้อมกับแก้วน้ำพั้นช์สีแดงสด รสชาติหวานเย็น ความจริงแล้วผมไม่มีอารมณ์อยากดื่มอะไรหรอก นี่เป็นเพียงกลอุบายที่ช่วยให้กลมกลืนไปกับกลุ่มคนใช้สระเท่านั้น ผมนั่งมองสาวสวยหุ่นนักกีฬาวัย 19 คนหนึ่งที่กำลังขึ้นจากสระผ่านกรอบแว่นกันแดดช่วยอำพรางใบหน้า ผมไม่ต้องการให้เธอสังเกตว่าผมกำลังสนใจเธอ

เธอคนนี้ติดหนี้ผมอยู่ และวันนี้ผมจะทวงคืนพร้อมดอกเบี้ย


ปรียา กำลังเดินเข้าห้องอาบน้ำอย่างเย็นใจ ปากฮัมเพลงไปด้วยท่าทางอารมณ์ดี ยิ่งทำให้ผมรู้สึกขุ่นเคืองมากขึ้นไปอีกที่ชีวิตปัจจุบันของเธอคงมีความสุข จนน่าอิจฉา
ไม่สิ...ที่จริงแล้วผมก็มีความสุขจนใคร ๆ ก็ต้องอิจฉาเหมือนกัน เรื่องแรกคือรูปร่างหน้าตาฐานะที่ผมสร้างมันขึ้นมากับมือ ส่วนเรื่องที่สองก็คือความสามารถพิเศษที่ทุกคนต้องคาดไม่ถึง


“ขอโทษค่ะคุณ คุณคะ คุณนั่นแหละค่ะ”


แย่ชะมัด ปรียาสังเกตเห็นผมแล้ว ให้ตายเถอะ...ตามแผนที่วางไว้มันควรจะไม่กะทันหันขนาดนี้ แต่จะเดินหนีก็ยิ่งมีพิรุธ เอาเถอะน่ะ
ยัง ไงซะพลังพิเศษที่ผมมีย่อมทำให้ได้เปรียบทุกคน ทุกที่ ทุกเวลา ทุกสถานการณ์อย่างไม่มีข้อแม้อยู่แล้ว ลองเผชิญหน้ากันหน่อยจะเป็นไรไป


“เอ่อ เรียกผมหรือเปล่าครับ” ผมยิ้มแห้ง ๆ พลางเกาศรีษะ ด้วยหวังว่าท่าทีแหย ๆ กึ่งไร้เดียงสานี้จะช่วยกลบรังสีอำมหิตที่ซ่อนอยู่ภายในใจไม่ให้พลุ่ง พล่านออกจนอีกฝ่ายรู้สึกได้


“ตรงนี้เป็นโซนห้องอาบน้ำหญิงนะคะ มารอแฟนหรือไงคะ” เธอถามพลางยิ้มไปเหมือนหยั่งเชิง


“เอ่อ เปล่าครับ ผมมาคนเดียว ผมแค่...” ผมจะตะกุกตะกักทำไมกันนะ...ยิ่งดูน่าสงสัย ถ้าเป็น “เหยื่อ” ปกติละก็ผมจะไม่ต่อปากต่อคำให้เสียเวลาอย่างนี้หรอก
ใช้พลังครั้งเดียว ก็จบเรื่องแล้ว แต่กรณีของปรียา ผมอยากจะคุยกับเธอให้มั่นใจก่อนว่าผมควรจะพิพากษาเธอหรือไม่ เพราะผมยังมีเรื่องไม่ค่อยแน่ใจ


“ผมหาส้วมอยู่ครับ เพิ่งมาที่นี่ครั้งแรก ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน” ตอบมั่ว ๆ ไปก่อนแล้วกัน หวังว่าเธอจะไม่คิดว่าผมเป็นพวกถ้ำมองโรคจิต


“อยู่ชั้นล่างค่ะ ที่นี่แยกห้องอาบน้ำกับห้องน้ำ เอางี้เดี๋ยวดิฉันจะพาคุณไปเองค่ะ”
แล้วปรียาก็เดินลงมาส่งผมที่ห้องน้ำจริง ๆ


“นี่ค่ะห้องน้ำ คราวหลังก็ระวังหน่อยนะคะ ถ้าไม่เจอคนแบบดิฉัน คุณอาจจะถูกมองไม่ดีได้นะคะ” เธอเตือนพร้อมกับยิ้มให้
จะว่าไปเธอก็อัธยาศัยดีมีน้ำใจ ผมเริ่มรู้สึกลังเลที่จะทำตามแผน


บาง ทีผมอาจจะคิดมากไปเอง เอาอย่างนี้ เก็บเรื่องของปรียาไว้สักพัก ติดตาม “ลูกหนี้” รายอื่นก่อนก็ได้ ผมแสร้งทำทีจะเดินเข้าห้องน้ำจริง ๆ เพื่อไม่ให้ปรียารู้สึกผิดสังเกต แล้วกะว่าจะออกจากที่นี่ไปเลย แต่แล้ว...


“ขอโทษนะคะคุณ ” เธอกุมมือป้องปากกระแอมหัวเราะ “เห็นท่าทางคุณแล้วอดนึกถึงเพื่อนคนนึงสมัยเรียนไม่ได้น่ะค่ะ”


“เอ๋...ผมน่ะเหรอครับ” ผมเหลียวหลังกลับมาหยุดฟังด้วยความสนใจ


“ค่ะ คืออย่างนี้ สมัยเรียนมีเพื่อนอยู่คนนึงเป็นเด็กเนิร์ด ๆ เหมือนโนบิตะน่ะค่ะ โดนแกล้งประจำเลย อ๊ะ ๆ แต่ดิฉันไม่ได้ว่าคุณนะคะ
คือบุคลิกมีส่วนคล้าย แต่รูปร่างหน้าตาต่างกันเยอะค่ะ คุณหล่อกว่าเขาชนิดเทียบไม่ติดเลย”


“น่าสงสารเขานะครับ”


“ใช่ค่ะน่าสงสาร แต่ทำไงได้ละคะ เจ้าตัวไม่รู้จักต่อสู้เพื่อปกป้องตัวเองบางเลย คุณเคยได้ยินแนวคิดของดาร์วินที่ว่า
ผู้ เข้มแข็งจะถูกธรรมชาติคัดเลือกให้ดำรงอยู่ต่อไปไหมคะ อุ๊ย ขอโทษนะคะเล่าอะไรให้ฟังก็ไม่รู้ ดิฉันเสียมารยาทจริง ๆ เปลี่ยนเรื่องคุยเถอะค่ะ”


“ไม่หรอกครับ ผมสนใจ ผมอยากฟังมุมมองที่คุณมีต่อเพื่อนคนนั้น”


“ถ้า จะให้พูดตามที่คิดละก็ เขาน่าสงสารนะคะ อ่อนแอ เนื้อตัวมอมแมม หน้าตาก็ไม่ดี ฐานะทางบ้านก็ลำบาก แต่พ่อแม่อยากให้เรียนโรงเรียนเอกชน ก็เลยต้องมาแบบอดมื้อกินมื้อ
เรียนหนังสือก็ไม่ทันเพื่อนที่มีปัญญา เรียนกวดวิชาแพง ๆ เป็นตัวตลกที่เพื่อนชอบแกล้งสารพัด จนกระโดดตึกฆ่าตัวตาย โชคดีที่เขารอดมาได้ ตอนนี้ไปทำอะไรอยู่ก็ไม่รู้
เกิดมายากจนนี่เหมือนถูกสาปเลยค่ะ พูดไปก็เท่านั้น อย่างคุณกับดิฉันคงไม่มีวันเข้าใจความรู้สึกเขาหรอกค่ะ”


“ทำไมถึงคิดว่าผมไม่มีวันเข้าใจความรู้สึกเขาล่ะครับ” ผมถามด้วยแววตาไร้เดียงสา


“คุณคะอย่าแกล้งทำเป็นไม่รู้สิ ฮะ ๆ”


“ผมไม่ได้แกล้งไม่รู้ครับ ผมอยากทราบจริง ๆ” ผมย้ำอีกครั้ง


“แหม... ที่นี่มหาลัยนานาชาตินะคะ มีแต่ชนชั้นมีอันจะกินมาเรียน สภาพแวดล้อมมีแต่สิ่งดี ๆ สวยงาม แต่มันก็ต้องใช้เงินซื้อ คนรากหญ้าเข้าไม่ถึงหรอกค่ะ
แน่นอน หากคุณเข้ามาที่นี่ได้ แม้จะไม่ใช่นักศึกษาที่นี่ แต่อย่างน้อยก็คงเป็นเพื่อนหรือคนรู้จักของนักศึกษาสักคนที่นี่ ที่มีฐานะใกล้เคียงกันใช่ไหมคะ”


“คงอย่างนั้นมั้งครับ” ผมตอบแบ่งรับแบ่งสู้


“คือ ดิฉันจะสื่อว่า ที่เราไม่มีวันเข้าใจเขาก็เพราะเราจะไม่ลำบากแบบนั้นไงคะ ความเป็นอยู่มันคนละโลกกันเลย นักศึกษาที่นี่มีแต่ลูกคนมีเงิน ความเป็นอยู่เพียบพร้อม
แถมหน้าตาดีและฉลาด ซึ่งเป็นสิ่งที่คนจนไม่มีวันเข้าถึงหรอกค่ะ บางอย่างมันมากับต้นกำเนิดชาติตระกูล”


“พอ เข้าใจครับ...ที่จริงผมสนใจเรื่องเพื่อนคุณคนนั้นมากกว่า ที่คุณเอาไปเชื่อมโยงกับทฤษฎีของดาร์วินน่ะครับ เขาถูกรังแกในชั้นเรียนยังไงบ้างเหรอครับ”


“สารพัด ค่ะ ถูกจับแก้ผ้าถ่ายรูป เอาหมุดไปโรยรองเท้า เอาสมุดการบ้านไปซ่อน ขังในห้องน้ำ เอาแมลงสาบใส่ชามก๋วยเตี๋ยว ขนาดครูยังไม่ช่วยอะไรเลยค่ะ
จะ ว่ายังไงดี เหมือนในห้องเรียนมีเหลือบหมัดอยู่ตัวหนึ่ง แม้มันจะไม่ทำอะไรใคร แต่แค่มีลมหายใจอยู่ไปวัน ๆ คนก็รังเกียจจนต้องตามบดขยี้แล้วล่ะค่ะ”


“แล้วคุณได้ร่วมวงแกล้งเขาด้วยหรือเปล่าครับ”


“ไม่ ค่ะ ดิฉันไม่แกล้งเลย แค่ช่วยพวกผู้ชายถ่ายรูปตอนเขาถูกรุมทึ้งแก้ผ้า แต่แอบเสียใจนิดนึงนะคะที่ของลับผู้ชายคนแรกที่ดิฉันเห็นในชีวิตเป็นของเด็ก โนบิตะพรรค์นั้น ฮ่า ๆ ๆ เรียกว่าอัปมงคลก็คงได้ละมั้ง”


“คุณรู้สึกผิดไหมครับ”


“แหม คุณคะ เรื่องสมัยเรียนใคร ๆ ก็คงมีกันบ้างแหละค่ะ คุณจะมาซีเรียสกับดิฉันทำไม ก็แค่ชวนคุยสนุก ๆ เรื่อยเปื่อย อีกอย่างดิฉันอุตส่าห์พาคุณมาห้องน้ำนะคะ” ปรียาเริ่มขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ


“คุณยังไม่ได้ตอบคำถามผมเลยนะครับ”


“เอ๊ะ! คุณนี่ อย่ามาคาดคั้นอย่างนี้นะ คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน”


“แล้วคุณละครับคิดว่าผมเป็นใคร” ผมถามกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย


ปรียา หน้าถอดสีทันทีที่ผมเลิกแขนเสื้อเชิ้ตขึ้นให้เธอดู บนท้องแขนผมมีรอยสักรูปหน้าโนบิตะแบบไก่เขี่ยฝีมือห่วย ๆ ที่เกิดจากการยัดเยียดของเพื่อนร่วมชั้นในอดีต


“...เต๋อ...” เธอออกเสียงในลำคอเบา ๆ ... เบาจนแทบไม่ได้ยิน


ผม ต้อนเธอเข้าห้องน้ำด้วยการก้าวเท้าเดินเข้าหาช้า ๆ ขณะที่เธอเขยิบถอยหลังทีละก้าวราวกับเป็นจังหวะพร้อมกัน เธอป่ายมือกวาดตาไปทั่วเพื่อหาวัตถุที่คิดว่าใช้แทนอาวุธได้ โชคไม่ดีที่ไม่มีอะไรช่วยเธอได้
แม้แต่แจกันยังเป็นแบบติดฝาผนัง ถ้าว่ากันตามตรง ต่อให้เธอมีปืนลูกซองในมือก็ไม่สามารถทำอะไรผมในตอนนี้ได้หรอกนะ

“เต๋อ...ฟังเราก่อน” ปรียายกมือปรามราวกับกลัวว่าจู่ ๆ ผมจะพุ่งเข้าทำร้าย หึ ผมไม่ทำอะไรตื้นเขินแบบนั้นหรอก มันต้องน่าสนุกกว่าอะไรพื้น ๆ อย่างการใช้กำลัง และที่อยากจะให้ฟังมันก็สายไปแล้ว
ผมพิพากษาเธอจากคำ พูดและการแสดงออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เธอเคยมีส่วนช่วยถ่ายรูปประจานผม เพียงแต่ตอนนั้นผมยังไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนทำเพราะมันโกลาหลมาก
แต่ตอนนี้ผมทราบคำตอบชัดเจนและคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เธอควรได้รับรู้รสชาติสิ่งที่ผมเคยได้รับ

เวลา 6 โมงเย็น ณ ลานหน้าห้างสรรพสินค้าละแวกใกล้เคียง ท่ามกลางฝูงมหาชนที่กำลังเดินขวักไขว่เพื่อเดินเล่นและจับจ่ายใช้สอย มีเพียงปรียาที่ยืนสงบนิ่งจนเหมือนขวางทางเดิน เธอสวมเสื้อโค้ตดำ ยืนเท้าสะเอวพอยต์เท้าคางเชิดราวกับนางแบบมืออาชีพ แน่นอนล่ะ เพราะผมทำให้เธอเข้าใจว่าเธอเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ส่วนผมนั่งคุมเชิงอยู่ในร้านกาแฟบริเวณชั้นสองของห้าง ผมเลือกที่นั่งในมุมบุกระจกใสทำให้เห็นบริเวณหน้าห้างชัดเจน พร้อมละเลียดฟองนมจากคาปูชิโน่ร้อน ๆ ทานคู่กับพายแอปเปิ้ลรสเยี่ยมเพื่อเพิ่มอรรถรสในการชมหนังสั้นที่ผมเขียนบท กำกับ และเลือกนักแสดงเองกับมือ


“3...2...1 เริ่มได้”ผมส่งสัญญาณออกคำสั่งผ่านทางความคิด


ปรียา เปิดเพลงแดนซ์จังหวะเร้าใจจากมือถือด้วยเสียงดังเต็มพิกัด เธอวางมันลงข้างปลายเท้า ถอดเสื้อโค้ตเหวี่ยงไปข้างตัว เหลือเพียงชุดว่ายน้ำบิกินี่สีฟ้าตัวที่เธอใส่คุยกับผมตอนแรก จากนั้นจึงเริ่มเอี้ยวตัว ส่ายสะโพก โบกมือไปตามจังเพลงอย่างไม่เกรงสายตาใคร ผู้คนเริ่มลุกฮือ แตกวงออกไปเป็นระลอกคลื่นน้ำโดยมีปรียายืนที่กำลังเต้นสุดเหวี่ยงเป็นจุด ศูนย์กลาง


หลาย คนเริ่มวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า บางก็เดินหนี บางก็เอามือปิดตาลูกเด็กเล็กแดง ผู้ชายบางคนทำไก๋ ยืนดูอยู่ห่าง ๆ แล้วแสดงท่าทีรังเกียจการกระทำเสียสติ แต่ที่แท้จริงแล้วพวกเขากำลังดูเพราะสนใจนมกับหีต่างหาก อย่าสร้างภาพเป็นคนมีศีลธรรมด้วยการประณามคนที่เปลือยให้ดูฟรี ๆ ตรงหน้าเลยไอ้พวกควาย กูอ่านใจพวกมึงออกอย่างทะลุปุโปร่ง ถ้าคิดว่าสิ่งที่อีกะหรี่ปรียาทำมันน่ารังเกียจจริง ทำไมมึงไม่ถอดเสื้อโค้ต หรือหาอะไรมาคลุมตัวให้วะ


“เพิ่มระดับ” ทันทีที่ผมส่งสัญญาณภายในจิตใจออกไป ปรียาก็ถอดชุดว่ายน้ำออก เผยให้เห็นหน้าอกเต่งตึง ยอดถันสีชมพู
และ ร่องแคมหีแซมขนดำแต่พองาม สมกับวัย 19 ของเธอ เธอเต้นด้วยลีลาเย้ายวนมากขึ้น รปภ. สองคน ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง รีบวิ่งเข้ามาเพื่อจะหยุดการกระทำนั้น


“คุณครับ หยุดเถอะ!” รปภ.ชายขอร้อง ขณะที่รปภ หญิงกำลังหาจังหวะเอาเสื้อโค้ตคลุมตัวปรียาเพื่อหยุดยั้งสภาพอุจาด


ผม เพ่งกระแสจิตเพิ่มเติม “ฟังให้ดีปรียา นอกจากเธอเป็นโคโยตี้สุดเซ็กซี่แล้วเธอยังเป็นนักคาราเต้มืออาชีพด้วย อย่าให้ใครขัดขวางได้ เวทีนี้เป็นของเธอ”


ปรียา ใช้มือสับเข้าที่ต้นคอ รปภ. ทั้งสองจนล้มฟุบลงราวกับสายฟ้าแล่บ คราวนี้เธอหยิบเอากระบองที่รปถเหน็บเอวมาเสริมการแสดงโดยเริ่มจากการเลีย กระบองนั้นอย่างช้า ๆ ด้วยแววตาหื่นกระหายพลางสบตาผู้ชมเพศชายไปทั่ว เริ่มมีคนเดินหนีเพราะทนดูต่อไม่ไหวแม้ใจจะขาด เพราะท่าทีของเธอดูไม่น่าไว้ใจมาก ๆ เหมือนนักมายากลที่กำลังหาอาสาสมัครมามีส่วนร่วมในการแสดง อาณาเขตที่คนแตกวงขยายกว้างขึ้น


“ยัด เข้าไป” ปรียาในสภาพหุ่นเชิดตอบรับคำสั่งทันที เธอใช้มือหงายกระบองรปภ.ตั้งฉากกับพื้น แล้วจึงค่อย ๆ นั่งคร่อมกดกระบองเข้าร่องสวาทเข้าไปจนมิดด้ามต่อหน้าธารกำนัล ยังไม่พอ เธอเริ่มนั่งรูดขย่มกระบองเข้า ๆ ออก ๆ จนกระบองฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำหงี่หล่อลื่น ยิ่งมีเสียงเพลงแดนซ์จากมือมือที่เธอเปิดประกอบด้วยแล้ว พาลทำให้รู้สึกว่านี่คือโชว์พัฒน์พงศ์แบบเดินสายแสดงทั่วประเทศ


“ขอ สมูธตี้กล้วยหอมครับ” ผมพูดกับบริกร อยากได้เครื่องดื่มเย็นตบท้ายสักหน่อยหลังจากทานของหวานเต็มอิ่ม เอาล่ะ วันนี้ควรพอแค่นี้ได้แล้ว สิ่งที่ปรียาเคยทำกับผมได้ถูกชำระทั้งต้นทั้งดอกเป็นที่เรียบร้อย เมื่อเธอได้สติคืนมาเธอจะรู้ว่ามันน่าอายแค่ไหน อาจจะอยากฆ่าตัวตายล้างอายไปเลยก็ได้ แต่ถ้าจะทำจริง ๆ ผมก็คงไม่รู้สึกผิดเพราะผมไม่ได้บังคับให้เธอไปตายซะหน่อย และอีกอย่างเธอก็มีส่วนทำให้ผมเคยฆ่าตัวตายเช่นกัน


ให้ ตายสิ...ผมเพิ่งสังเกตว่าคนในร้านพร้อมใจเกาะกระจกดูชมการแสดงสดของปรียา อย่างเนืองแน่น จนเรียกได้ว่าคนเกือบทั้งร้าน เทกันไปกระจุกตัวอยู่บริเวณหน้ากระจกราวกับร้านลาดเอียง บางคนยังมีหน้าถือเครื่องดื่ม ดูไปด้วยดื่มไปด้วยอีกนะ เชื่อเค้าเลย เอาเถอะ อยากทำอะไรก็ทำไปนะพวกมนุษย์กิเลสหนา ผมจะกลับบ้านแล้ว วันนี้ผมพอใจกับภารกิจและผลลัพธ์เป็นอย่างมาก


“115 บาท” ครับ บริกรส่งแก้วสมูธตี้ให้ผม ผมส่งเงินให้พร้อมรอยยิ้ม และขณะที่ผมหันหลังให้เคาน์เตอร์เพื่อเดินออกจากร้านนั่นเอง....


“หน้า ยังเด็กอยู่เลยมีปัญญามากินร้านแพง ๆ ลูกคนรวยอย่างพวกมึงก็ได้แต่แบมือขอพ่อแม่กินไปวัน ๆ ไม่แฟร์เลยไอ้เหี้ยเอ้ย เห็นหน้ามึงแล้วหมั่นไส้ว่ะ แอบถุยเสลดลงไปปั่นรวมด้วย ตอนแม่งกินจะทำหน้ายังไงนะ ฮ่า ๆ”


บาง ทีการมีพลังพิเศษในยินเสียงข้างในใจผู้อื่น อาจทำให้เป็นทุกข์จากการรู้ว่าแท้ที่จริงคนรอบข้างคิดยังไงกับเรา ใช่ มันก็ถูก แต่ที่แน่ ๆ ครั้งนี้มันมีประโยชน์มากกว่าโทษเนื่องจากเมื่อกี้ผมเกือบจะดื่มสมูธตี้ผสม เสลดเข้าไปแล้ว ไอ้นี่มันร้ายนัก ที่จริงแล้ว ผมไม่ได้รวยหรือดูดีขึ้นจากชาติตระกูลหรอกนะ สร้างมาด้วยตัวเองทั้งนั้นจากการใช้พลังพิเศษนี่แหละ เอาไว้วันหลังจะเล่าให้คุณฟังแล้วกัน แต่ตอนนี้ต้องขอจัดการกับไอ้หมอนี่ก่อน เรื่องนี้ผมถือว่าร้ายแรง และมันไม่สมควรจะได้ทำงานที่นี่อีกต่อไป

ผมเดินย้อนกลับไปที่เคาน์เตอร์หาบริกร


“ม...มีอะไรหรือเปล่าครับ” มันท่าทางตื่น ๆ สงสัยคงไม่แน่ใจว่าผมจะรู้ว่ามันทำอะไรไว้หรือเปล่า


ผมจ้องหน้าบริกรนิ่ง ๆ และถ่ายทอดคำสั่งผ่านกระแสจิตว่า “ลงไปเย็ดอีปรียาตรงลานหน้าห้างจนกว่ามึงจะน้ำแตก เดี๋ยวนี้ ไปซะ”


สิ้น คำสั่ง บริกรหนุ่มอายุราว ยี่สิบกลาง ๆ รูปร่างสันทัดค่อนข้างเตี้ยแต่ตัวตันบึกบึน หน้าตาบ้าน ๆ ก็เดินออกนอกร้านไปเงียบ ๆ ผมใช้กระแสจิตจับความเคลื่อนไหวควบคุมมันไปตลอดทาง จนเมื่อถึงหน้าห้าง ผมก็สั่งให้มันวิ่งฝ่าฝูงชนไปด้วยแก้ผ้าไปด้วยจนเหลือแต่กางเกงในสีขาวตัว เดียว เมื่อถึงตัวปรียากลางวง ทุกคนก็คงเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มีคนพยายามจะเข้ามาดึงตัวบริกรหนุ่มออกก่อนที่เหตุการณ์จะต่ำเตี้ย เดียรัจฉานไปมากกว่านี้


แต่ ระดับผมแล้วเรื่องแค่นี้ไม่มีพลาด ผมฝึกพลังที่ได้มาจนคุ้นเคยมากพอที่จะดัดแปลงให้ใช้ประโยชน์ได้หลายรูปแบบ รวมถึงขยายขอบเขตอำนาจพลังด้วย คราวนี้ผมสั่งควบคุมผู้ชายที่ยังยืนดูอยู่รอบ ๆ ล้อมตัวเป็นกำแพงป้องกัน ไม่ให้ใครขัดขวางการฉายหนังสดระหว่างนังปรียากับบริกรหนุ่ม คนดูกลุ่มนี้มันมาขอดูฟรีนานแล้ว และตอนในนี้ผมว่าพวกมันควรจะตอบแทนผมบ้างด้วยการยอมเป็นหุ่นเชิดชั่วคราว


ปรียา เดินเข้าไปรูดกางเกงในสีขาวของบริกรหนุ่มลงอย่างรวดเร็ว เธอดูดควยอย่างหื่นกระหาย ผมว่าบริกรหน้าตาบ้าน ๆ อย่างมันได้มีโอกาสร่วมรักกับปรียาซึ่งเป็นผู้หญิงผิวสวยหน้าตาดี ผมก็ถือว่าเป็นบุญของมันแล้วนะ ปรียาดูดจนควยของบริกรหนุ่มผงาดตัวขึ้นเรื่อย ๆ ช่างเป็นควยที่ดำมะเมื่อม ปลายเบ่งบานดูแข็งแรงน่าเกรงขามตามแบบฉบับหนุ่มอีสาน ทันทีที่แข็งเต็มที่ผมก็สั่งให้ทั้งสองเย็ดท่าหมาทันที ประโปกไข่สีคล้ำของบริกรหนุ่มกระทบเด้งเข้าออกตามแรงกระแทกเป็นจังหวะ ทวีความแรงขึ้นเรื่อย ๆ ชาวบ้าน แม่ค้าหลายคนในละแวกนั้นเริ่มโห่ร้องดุด่า ขว้างปาสิ่งของด้วยความไม่พอใจ แนวล้อมของผมต้องช่วยป้องกันไม่ให้คนพวกนี้ก่อกวนการสมสู่ระหว่างปรียากับ บริกรหนุ่ม

“อีจัญไร อีกาลีบ้านกาลีเมือง!!”

“ไอ้พวกเหี้ย เลิกทำตัวเป็นสัตว์ได้แล้ว”

“พวกมึงจะดูมันทำไม ทำไมไม่ช่วยกันห้าม ยังเป็นคนอยู่รึเปล่า”


กลุ่ม ผู้ต่อต้านเริ่มขว้างปาวัตถุรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เช่นใช้ก้อนหิน ใช้ไม้พลองไล่ตีคนขัดขวาง ไม่ได้การแล้ว แนวป้องกันของผมคงอยู่ได้ไม่นานนัก เร่งมือหน่อยสิวะไอ้หนุ่ม ผมเปลี่ยนคำสั่งให้มันเอาท่านอนหงายธรรมดา แล้วจับยกขาปรียาขึ้นพาดบ่า คงไม่ลำบากสำหรับหนุ่มอีสานบึกบึนอย่างมัน ตอนนี้ผมต้องการให้มันรีบเย็ดกันท่าสะดวก ๆ เสร็จกันเร็ว ๆ ผมจะได้รีบไป ถ้าไม่เสร็จมันจะค้างคาใจผม ดีไม่ดีจะค้างคาใจสองคนนั้นด้วยที่เย็ดไม่เสร็จ


ผมควบคุมคำพูดของสองคนนั้น เพื่อช่วยส่งเสริมความเสียวแก่กันและกันมากขึ้น


“น้องครับ เกิดมาผมยังไม่เคยเย็ดผู้หญิงคนไหนขาวสวย หีฟิตสีชมพูสะอาดแบบน้องมาก่อนเลยครับ”


“พี่คะ เย็ดหนูแรง ๆ เลยค่ะ คิดว่าหนูเป็นเมียพี่หรือเป็นกะหรี่ชั่วคราวก็ได้ แตกในลึก ๆ เลยนะคะ”


ได้ผลแฮะ สองคนนั้นดูจะเสียวเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว


“โอย ไม่ไหวแล้ว จะแตกแล้ว โอ้ว ๆ ๆ” ไอ้หนุ่มบริกรหดเกร็งตัว ฉีดน้ำเชื้อเข้าไปในร่องหีปรียาสุดแรง ผมหลับตาแล้วใช้ “ดวงตาจิต” ดูภาพหน้าหีของปรียา ซึ่งบัดนี้กำลังนอนขมิบกลีบหีด้วยความอ่อนแรง บริกรหนุ่มชักลำควยออกมาดัง ผลั้วะ พร้อมกับมีน้ำเชื้อที่มันแตกในเอาไว้ไหลย้อยผ่านร่องหีลามไปถึงง่ามตูดปรียา เป็นภาพที่ยั่วอารมณ์น่าบันทึกเทปส่งทำหนังแผ่นเหลือเกิน เสียดายที่ความสามารถผมยังทำไม่ได้ขั้นนั้นและมีสิทธิ์เห็นคนเดียว แหม อยากแบ่งภาพนี้เป็นการขอบคุณแนวร่วมป้องกันของผมซะจริง ๆ


“เฮือก..” ผมรู้สึกเย็นวูบที่หน้าผาก เกิดอาการหน้ามืด ทรุดตัวลงเล็กน้อย คงเป็นเพราะวันนี้ใช้พลังกับคนมากเกินไป ตอนนี้ผมคืนสติให้กับทุกคน ให้พวกมันรู้ตัวว่าทำเรื่องอุบาทว์อะไรลงไปบ้าง ตำรวจเริ่มเข้ามาเคลียร์พื้นที่ เกิดเหตุชุลมุนชกต่อยกันระหว่างแนวร่วมป้องกันกับกลุ่มผู้ต่อต้าน ผมอยากจะสะกดจิตให้ทุกคนสงบจิตใจลงเหมือนกันแต่วันนี้ไม่ไหวแล้วจริง ๆ เชิญพวกมึงแก้ไขปัญหากันเองตามมีตามเกิดก็แล้วกัน


สำหรับปรียา ผมลบความทรงจำในส่วนที่เธอได้พบกับผมวันนี้ เพราะผมยังไม่อยากให้ใครก็ตามรู้ว่าตอนนี้ผมเปลี่ยนไปแค่ไหน และกำลังคิดจะทำอะไรต่อไป
.
.

จบตอนที่ 1 เหตุอุบาทว์หน้าห้าง

1 comment: